รศ.ดร.สมชาย สันติวัฒนกุล อธิการบดี ในฐานะประธานทีมติดตามและประเมินสถานการณ์ Covid-19 ของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการความพร้อมและบทบาทของ มศว ต่อการเตรียมรับมือ ดังนี้
ขณะนี้โรงพยาบาล ของ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ทั้งสองแห่ง ได้แก่ ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก และ ศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ ชลประทาน จังหวัดนนทบุรี ได้เตรียมความพร้อมในการรับมือกับการแพร่ระบาดของ Covid-19 ซึ่งมีแนวโน้มจะเข้าสู่ Phase 3 ในระยะเวลาอันใกล้นี้ โดยมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้เตรียมความพร้อมดังนี้
ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
1.ปรับปรุงระบบการไหลเวียนอากาศในหอผู้ป่วยพิเศษ ขนาด 16 เตียงเพื่อเพิ่มศักยภาพเป็นโรงพยาบาลที่สามารถรองรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อ COVID-19 ได้อย่างน้อย 16 ราย และสามารถรองรับได้ทั้งผู้ป่วยเด็กและผู้ใหญ่ที่ติดเชื้อโดยไม่ต้องเข้าไปในเขตกรุงเทพมหานคร
2. เพิ่มห้องความดันลบ (Negative pressure room) จำนวน 2 ห้อง ในแผนก ICU และ PICU เพื่อรองรับผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 ที่มีอาการหนักและต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด
3. พัฒนาศักยภาพห้องปฏิบัติการให้สามารถตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรน่า และเชื้อไวรัสอื่นๆ ได้ ซึ่งจะเป็นที่เดียวในเขตตะวันออก 2 ทำให้ไม่ต้องส่งเลือดเข้าไปตรวจที่ส่วนกลาง และลดระยะเวลารอคอยได้ถึง 50% โดยจะปรับปรุงให้ห้องปฏิบัติการได้มาตรฐานระดับ Class 3 และมีอุปกรณ์ในการตรวจเชื้อไวรัสอย่างครบถ้วน
4. จัดเตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อรองรับผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 เช่น เครื่องช่วยหายใจ เครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง เตียงและอุปกรณ์เคลื่อนย้ายผู้ป่วยชนิดควบคุมความดันเป็นลบ
5. เพิ่มประสิทธิภาพห้องผ่าตัดชนิดความดันลบ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ ที่จำเป็น เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่มีความจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัด
ในส่วนของ ศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ ชลประทาน จะมีการแยกโซน สำหรับผู้ป่วยที่สงสัยว่ามีความเสี่ยงต่อ Covid-19 โดยย้ายมาเปิดตึกเก่าใช้ 80/5 เป็น ward ใช้ ER เก่าเป็นสถานที่ตรวจผู้ป่วยนอกแบบ one-stop service
สำหรับทีมติดตามและประเมินสถานการณ์ Covid-19 ของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จะมีการดำเนินการ ประชุม และจัดหาแนวทางมาตรการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19